“เวชพงศ์โอสถ”
จากเมล็ดพันธุ์แห่งคุณธรรม
สู่ความมั่นคงทางธุรกิจ

“เวชพงศ์โอสถ” ก่อกำเนิดขึ้นโดยอากง อิ้วเจีย แช่เอี๊ยะ
ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีเป็นเพียงกิจการร้านขายชาและสมุนไพรไทยเล็กๆ
ในเยาวราช
ที่ข้ามผ่านสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
และสังคมมาหลายยุคสมัย
จากองค์ความรู้ที่สั่งสม
และด้วย “สมดุล” ในหลายมิติ
ทั้งสมดุลแห่งธรรมชาติ
ในการดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพร
และสมดุลในการดำเนินธุรกิจ
ด้วย “เมล็ดพันธุ์แห่งคุณธรรม”
ซึ่งอากงเป็นผู้ลงแรงกายใจ
หว่านเพาะไว้ด้วยการกระทำ
และทายาทลูกหลานร่วมกันสืบสาน
ต่อยอดสร้างสรรค์ และมุ่งมั่นพัฒนา
จนได้รับความไว้วางใจ
จากลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจในระดับสากลมาถึง 120 ปี

เวชพงศ์โอสถก่อตั้งขึ้นที่เยาวราช เมื่อ พ.ศ. 2447
โดย “อากง” อิ้วเจีย แซ่เอี้ยะ (ในภายหลังเปลี่ยนเป็น
นายอิ้วเจีย เวชพงศา)
เด็กชายชาวจีนแผ่นดินใหญ่
จากมณฑลฮกเกี้ยน ในวัยเพียง
12 ปี เดินทางข้ามน้ำ
ข้ามทะเลมาสู่เมืองไทยเพียงลำพัง
เพื่อทำงานเก็บเงิน
ส่งกลับไปให้พ่อที่เมืองจีน ด้วยหัวใจนักสู้
ผู้มีความขยัน
ซื่อสัตย์ อดทน ถ่อมตน ประหยัด และไม่ทดท้อ
แม้มรสุม
ถาโถมหลังจากการทุ่มเททำทุกงานสารพัด
โดยมีเป้าหมาย
จะมีที่ทำกินของตนเอง ที่สุดชีวิตเดินมาถึงจุดเปลี่ยน
เมื่ออากงอายุได้ 30 ปี เกิดป่วยปางตายและได้ยารักษา
จากพระรูปหนึ่งจนหายดี จากโอกาสในการกลับมามี
สุขภาพดี
อีกครั้งในคราวนั้น เป็นที่มาของความคิดใน
การเปิดกิจการเล็ก ๆ ชื่อ “ฮกอันตึ๊ง” ขายชาและสมุน
ไพรไทย โดยมีเจตนารมณ์
อันแรงกล้า เพื่อยกระดับ
สุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนไทย
เวชพงศ์โอสถ ก่อตั้งขึ้นที่เยาวราช เมื่อ พ.ศ. 2447 โดย “อากง”
อิ้วเจีย แซ่เอี้ยะ (ในภายหลังเปลี่ยนเป็น นายอิ้วเจีย เวชพงศา)
เด็กชายชาวจีนแผ่นดินใหญ่จากมณฑลฮกเกี้ยนวัยเพียง 12 ปี
เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาสู่เมืองไทยเพียงลำพัง เพื่อทำงาน
เก็บเงิน ส่งกลับไปให้พ่อที่เมืองจีน ด้วยหัวใจนักสู้ผู้มีความขยัน
ซื่อสัตย์ อดทน ถ่อมตน ประหยัด และไม่ทดท้อแม้มรสุมถาโถม
หลังจากการทุ่มเททำทุกงานสารพัด โดยมีเป้าหมายจะมีที่ทำกิน
ของตนเอง ที่สุดชีวิตเดินมาถึงจุดเปลี่ยน เมื่ออากงอายุได้ 30 ปี
เกิดป่วยปางตายและได้ยารักษาจากพระรูปหนึ่งจนหายดี จาก
โอกาสในการกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้งในคราวนั้น เป็นที่มาของ
ความคิดในการเปิดกิจการเล็ก ๆ ชื่อ “ฮกอันตึ๊ง” ขายชาและ
สมุนไพรไทย โดยมีเจตนารมณ์อันแรงกล้า เพื่อยกระดับสุขภาพ
และคุณภาพชีวิตของคนไทย
อากงอิ้วเจียทำงานนี้ด้วยใจรัก อีกทั้งด้วยความเพียร จึงทำให้
กิจการขยับขยายไปได้ด้วยดี ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งเป็นที่
รู้จักและไว้ใจ
จากลูกค้าทั้งใกล้ไกล ด้วยปัจจัยสำคัญคือองค์ความรู้
ที่หมั่นสั่งสมเพิ่มเติมอยู่เสมอและการทำการค้า
ด้วยความซื่อสัตย์
จริงใจ จนกลายเป็นรากฐานที่แข็งแรงยิ่งของ “เวชพงศ์โอสถ”
ซึ่งสืบทอดต่อกันในครอบครัวมา
ถึงสามรุ่นในปัจจุบัน
อากงอิ้วเจียทำงานนี้ด้วยใจรัก อีกทั้งด้วยความเพียร จึงทำให้
กิจการขยับขยายไปได้ด้วยดี ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งเป็นที่รู้จักและไว้
ใจจากลูกค้าทั้งใกล้ไกล ด้วยปัจจัยสำคัญคือองค์ความรู้ที่หมั่น
สั่งสมเพิ่มเติมอยู่เสมอและการทำการค้าด้วยความซื่อสัตย์จริง
ใจจนกลายเป็นรากฐานที่แข็งแรงยิ่งของ “เวชพงศ์โอสถ” ซึ่ง
สืบทอดต่อกันในครอบครัวมา ถึงสามรุ่นในปัจจุบัน
“ความกตัญญู” มรดกตั้งต้นแห่ง “เวชพงศ์โอสถ”
แม้จะจากบ้านเกิดเมืองนอนมาแต่เยาว์วัย อากงกลับผูกพัน
เหนียวแน่นกับครอบครัว ญาติ พี่น้อง และผืนแผ่นดิน

แรกในชีวิต ด้วยสำนึกแห่งความกตัญญูที่มีต่อประเทศจีน
เป็นแรงบันดาลใจให้อากงเลือกใช้องค์ความรู้แห่ง “สมดุล”
ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ”มาปรับประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์
ตำรับสมุนไพรของเวชพงศ์โอสถ
อีกทั้งสำนึกในรากฐาน
ความเป็นลูกหลานชาวจีน เมื่อธุรกิจเริ่มมั่นคงเป็นปึกแผ่นขึ้น อากงจึงได้โอกาสทดแทนคุณ
ด้วยการสร้าง “บ้านดิน” 聚奎楼 (จวี้ ขุย โหลว) หมายถึงบ้านที่รวบรวมผู้คน ขึ้นที่หมู่บ้านฝู๋ถังไท่จี๋ เมืองจางโจว
มณฑลฝูเจี้ยน สถานที่สำคัญที่เป็นดังสัญญะ
แห่งความเคารพในธรรมชาติ การตอบแทนกลับสู่ครอบครัว
และสังคม
ในแผ่นดินบ้านเกิด การอยู่อาศัยร่วมกันอย่างสมดุล โดยบ้านดินซึ่งมีอาม่าเท้นซี แซ่ย่อง ภรรยาของอากง เป็นแม่งาน
ตั้งแต่ตั้งต้นจนสำเร็จผลนี้ ปลูกสร้างขึ้นตามลักษณะบ้าน
ของชาวจีนแคะ มีจุดเด่นคือเป็นทรงกลมขนาดใหญ่
ประกอบด้วย
ห้องมากมาย เอื้อต่อการอยู่อาศัยร่วมกันเป็นชุมชน ตัวบ้าน
ทำจากดินเหนียวใต้ท้องนาผสมฟางข้าว
ด้วยเป็นวัสดุที่ทนทาน
ต่อสภาพอากาศ ความร้อน ไฟเผา น้ำที่กัดเซาะ และป้องกันภัย
ในยามสงครามได้ รวมถึงยัง
มีรูปลักษณ์ที่กลมกลืน
ไปกับธรรมชาติเป็นอย่างดีทุกปีสมาชิกครอบครัวเวชพงศายังคง
กลับไปเยี่ยมเยียนครอบครัว
และญาติพี่น้องที่บ้านกลมอยู่เสมอ อีกทั้ง “เวชพงศ์โอสถ” ยังได้ทำโครงการมอบเงินทุนการศึกษา สร้างห้องสมุด
โรงงิ้ว และเงินสนับสนุนการพัฒนาชุมชน
อย่างต่อเนื่องตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
“ความกตัญญู” มรดกตั้งต้นแห่ง “เวชพงศ์โอสถ”
แม้จะจากบ้านเกิดเมืองนอนมาแต่เยาว์วัย อากงกลับผูกพัน
เหนียวแน่นกับครอบครัว ญาติพี่น้อง และผืนแผ่นดินแรกใน
ชีวิต ด้วยสำนึกแห่งความกตัญญูที่มีต่อประเทศจีน เป็นแรง
บันดาลใจให้อากงเลือกใช้องค์ความรู้แห่ง “สมดุล” ระหว่าง
มนุษย์และธรรมชาติมาปรับประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์
ตำรับสมุนไพรของเวชพงศ์โอสถ อีกทั้งสำนึกในรากฐานความ
เป็นลูกหลานชาวจีนเมื่อธุรกิจเริ่มมั่นคงเป็นปึกแผ่นขึ้น อากง
จึงได้โอกาสทดแทนคุณด้วยการสร้าง “บ้านดิน” 聚奎楼 (จวี้ ขุย
โหลว) หมายถึงบ้านที่รวบรวมผู้คน ขึ้นที่หมู่บ้านฝู๋ถังไท่จี๋ เมือง
จางโจว มณฑลฝูเจี้ยน สถานที่สำคัญที่เป็นดังสัญญะแห่งความ
เคารพในธรรมชาติ การตอบแทนกลับสู่ครอบครัวและสังคมใน
แผ่นดินบ้านเกิด การอยู่อาศัยร่วมกันอย่างสมดุล โดยบ้านดิน
ซึ่งมีอาม่าเท้นซี แซ่ย่อง ภรรยาของอากง เป็นแม่งาน ตั้งแต่ตั้ง
ต้นจนสำเร็จผลนี้ ปลูกสร้างขึ้นตามลักษณะบ้านของชาวจีนแคะ
มีจุดเด่นคือเป็นทรงกลมขนาดใหญ่ ประกอบด้วยห้องมากมาย
เอื้อต่อการอยู่อาศัยร่วมกันเป็นชุมชน ตัวบ้านทำจากดินเหนียว
ใต้ท้องนาผสมฟางข้าว ด้วยเป็นวัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศ
ความร้อน ไฟเผา น้ำที่กัดเซาะ และป้องกันภัยในยามสงคราม
ได้ รวมถึงยังมีรูปลักษณ์ที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติเป็นอย่างดี
ทุกปีสมาชิกครอบครัวเวชพงศา ยังคงกลับไปเยี่ยมเยียน
ครอบครัว และญาติพี่น้องที่บ้านกลมอยู่เสมอ อีกทั้ง “เวชพงศ์
โอสถ” ยังได้ทำโครงการมอบเงินทุนการศึกษา สร้างห้องสมุด
โรงงิ้ว และเงินสนับสนุนการพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่องตลอด
มาจนถึงปัจจุบัน
เมื่อ “ความขยันหมั่นเพียร” ผลิดอก
ออกผล
สู่ความไว้วางใจขจรขจาย
ห้วงเวลาถัดมาของการเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดด
อีกครั้ง โดยคุณเจนกิจ เวชพงศา ลูกชายคนโตของอากง
ผู้นำทัพ
แห่ง “เวชพงศ์โอสถ” ในยุคที่ 2 ที่ไม่เพียงสืบ
สานปณิธานธุรกิจของอากงให้เฟื่องฟูยิ่งขึ้นในหมู่ลูกค้า
คู่ค้า หากยังเป็น
ผู้วางรากฐานและนำพา “เวชพงศ์โอสถ”
ไปสู่เส้นทางอนาคต
ที่มั่นคงแห่งความสัมพันธ์ไทย-จีน
บุกเบิกธุรกิจนำเข้ายาจีน
จากประเทศจีน ยกระดับธุรกิจ
จากร้านขายชา และสมุนไพรไทยเล็ก ๆ มาเป็นผู้แทน
จำหน่ายยาจากประเทศจีนรายใหญ่ ต่อยอดไปจนถึง
การสร้างโรงงานยาแผนโบราณและโรงงานยาแผน
ปัจจุบัน สั่งสมชื่อชั้นการ ยอมรับและขยายฐานความ
ไว้วางใจ
ที่มีต่อเวชพงศ์โอสถไปสู่ระดับภูมิภาค
เมื่อ “ความขยันหมั่นเพียร” ผลิดอกออกผล สู่ความไว้วางใจ
ขจรขจาย
ห้วงเวลาถัดมาของการเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดอีกครั้ง
โดยคุณเจนกิจ เวชพงศา ลูกชายคนโตของอากง ผู้นำทัพแห่ง
“เวชพงศ์โอสถ” ในยุคที่ 2 ที่ไม่เพียงสืบ สานปณิธานธุรกิจของ
อากงให้เฟื่องฟูยิ่งขึ้นในหมู่ลูกค้า คู่ค้า หากยังเป็นผู้วางราก
ฐานและนำพา “เวชพงศ์โอสถ” ไปสู่เส้นทางอนาคตที่มั่นคงแห่ง
ความสัมพันธ์ไทย-จีน บุกเบิกธุรกิจนำเข้ายาจีนจากประเทศจีน
ยกระดับธุรกิจ จากร้านขายชา และสมุนไพรไทยเล็ก ๆ มาเป็น
ผู้แทน จำหน่ายยาจากประเทศจีนรายใหญ่ ต่อยอดไปจนถึงการ
สร้างโรงงานยาแผนโบราณและโรงงานยาแผนปัจจุบัน สั่งสม
ชื่อชั้นการยอมรับและขยายฐานความไว้วางใจที่มีต่อเวชพงศ์
โอสถไปสู่ระดับภูมิภาค
คุณเจนกิจเกิดที่ประเทศไทย และได้กลับไปเรียนที่ประเทศจีน
เมื่ออายุ 5 ปี ตามความตั้งใจ ของอากงที่ต้องการให้
ลูกหลาน
มีการศึกษาและได้กลับไปรู้จักกับประเทศบ้านเกิดของอากง
เรียนได้ 3 ปี คุณเจนกิจจึงกลับมาเรียนต่อที่
เมืองไทย
และเริ่มศึกษาเพิ่มพูนความรู้ด้านการแพทย์แผนจีนและไทย
ด้วยตนเอง กระทั่งวัยล่วงเข้า 16 ปี ได้เข้ามา
ทำงานที่ร้านเวชพงศ์โอสถเป็นครั้งแรก และได้รับช่วงกิจการต่อจากอากง
ใน พ.ศ. 2490 จากพื้นฐานความเป็นผู้ใฝ่รู้
เฉลียวฉลาด เรียนรู้เร็ว อีกทั้งรู้จักคนมากกว้างขวาง กิจการเวชพงศ์โอสถจึงรุดหน้า
อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งเมื่อคุณเจนกิจดำรงตำแหน่งนายกสมาคมจีน นายกสมาคมแพทย์แผนไทย และนายกสมาคมร้านขายยา
ใน พ.ศ. 2515 ได้ร่วมเป็นตัวแทนคณะจากประเทศไทย เข้าเจรจาสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-จีนเป็นครั้งแรกในรอบ
หลายปีหลังจากที่ประเทศจีนเปิดประเทศและความสัมพันธ์
กับนานาชาติ ซึ่งในครั้งนั้นนอกจากการต้อนรับดูแลคณะ

ตัวแทนชาวไทยอย่างดีเยี่ยมยังผลให้เกิดความสัมพันธ์
อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2518 แล้วคุณเจนกิจยังเป็น
คนไทยคนแรกที่ได้รับใบอนุญาตนำเข้ายาจีน รวมทั้งสิทธิ์ในการ
จัดจำหน่ายยาจีนชั้นนำอีกกว่า 30 ชนิดจากรัฐบาลจีน

อันเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจนำเข้ายาจากต่างประเทศ อีกทั้ง
ยังต่อยอดความไว้วางใจที่ได้รับจากคู่ค้าในท้องถิ่นไทย

ขยายขอบเขตกว้างไกลไปจนถึงคู่ค้าในต่างประเทศที่ยั่งยืนมาจน
ปัจจุบัน
ด้วยวิสัยทัศน์เฉียบคม ทักษะความเชี่ยวชาญที่สั่งสม ผสานด้วยความเพียรในการเสาะหาข้อมูลความรู้ที่เท่าทันยุค
สมัย การคัดสรรและพัฒนาไม่หยุดหย่อน จึงเป็นที่มาของผลิตภัณฑ์คุณภาพที่หลากหลาย การให้บริการอย่างมี
ประสิทธิภาพ
โดยบุคลากรคุณภาพและความใส่ใจในทุกกระบวนการที่เกี่ยวข้อง
อาทิ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านยา
สมุนไพรไทย คุณเจนกิจจึงเริ่มจากการหาสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณน่าสนใจ และเริ่มพัฒนายาสมุนไพรไทยเอง
เช่น คิดค้นยาหอมปิดทองเวชพงศ์ และยาหอมเวชพงศ์ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะ ซึ่งยังคงขายที่ร้านมาจนทุกวันนี้
อีกทั้ง
คุณเจนกิจยังเป็นผู้ปรับปรุงร้านเวชพงศ์ โอสถที่เยาวราช จากอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น เป็น 8 ชั้น (ก่อนที่จะปรับปรุง
อีกครั้ง
ในยุคคุณอภิญญา เวชพงศา) เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด
ในการดูแลสุขภาพให้แก่ลูกค้า ตอบรับ
ความไว้วางใจที่มี
ต่อเวชพงศ์โอสถอย่างครบถ้วนรอบด้าน
คุณเจนกิจเกิดที่ประเทศไทย และได้กลับไปเรียนที่ประเทศจีน
เมื่ออายุ 5 ปี ตามความตั้งใจ ของอากงที่ต้องการให้ลูกหลานมี
การศึกษาและได้กลับไปรู้จักกับประเทศบ้านเกิดของอากง เรียน
ได้ 3 ปี คุณเจนกิจจึงกลับมาเรียนต่อที่เมืองไทย และเริ่มศึกษา
เพิ่มพูนความรู้ด้านการแพทย์แผนจีนและไทยด้วยตนเอง กระทั่ง
วัยล่วงเข้า 16 ปี ได้เข้ามาทำงานที่ร้านเวชพงศ์โอสถเป็นครั้งแรก
และได้รับช่วงกิจการต่อจากอากงใน พ.ศ. 2490 จากพื้นฐาน
ความเป็นผู้ใฝ่รู้ เฉลียวฉลาด เรียนรู้เร็ว อีกทั้งรู้จักคนมาก กว้าง
ขวาง กิจการเวชพงศ์โอสถจึงรุดหน้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ
ยิ่งเมื่อคุณเจนกิจดำรงตำแหน่งนายกสมาคมจีน นายกสมาคม
แพทย์แผนไทย และนายกสมาคมร้านขายยา ใน พ.ศ. 2515 ได้
ร่วมเป็นตัวแทนคณะจากประเทศไทย เข้าเจรจาสถาปนาความ
สัมพันธ์ไทย-จีนเป็นครั้งแรกในรอบ หลายปีหลังจากที่ประเทศจีน
เปิดประเทศและความสัมพันธ์กับนานาชาติ ในครั้งนั้นนอกจาก
การต้อนรับดูแลคณะ ตัวแทนชาวไทยอย่างดีเยี่ยมยังผลให้เกิด
ความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2518 แล้วคุณเจนกิจ
ยังเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับใบอนุญาตนำเข้ายาจีน รวมทั้งสิทธิ์
ในการจัดจำหน่ายยาจีนชั้นนำอีกกว่า 30 ชนิดจากรัฐบาลจีน อัน
เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจนำเข้ายาจากต่างประเทศ อีกทั้งต่อยอด
ความไว้วางใจที่ได้รับจากคู่ค้าในท้องถิ่นไทย ขยายขอบเขตกว้าง
ไกลจนถึงคู่ค้าในต่างประเทศ ที่ยั่งยืนมาจนปัจจุบันด้วยวิสัยทัศน์
เฉียบคม ทักษะความเชี่ยวชาญที่สั่งสม ผสานด้วยความเพียรใน
การเสาะหาข้อมูลความรู้ที่เท่าทันยุคสมัย การคัดสรรและพัฒนา
ไม่หยุดหย่อน เป็นที่มาของผลิตภัณฑ์คุณภาพที่หลากหลาย การ
ให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยบุคลากรคุณภาพ และความใส่
ใจในทุกกระบวนการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านยา
สมุนไพรไทย คุณเจนกิจจึงเริ่มหาสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณ
น่าสนใจ และเริ่มพัฒนายาสมุนไพรไทยเอง เช่น คิดค้นยาหอม
ปิดทองเวชพงศ์ และยาหอมเวชพงศ์ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะ ซึ่งยังคง
ขายที่ร้านมาจนทุกวันนี้ อีกทั้งคุณเจนกิจยังเป็นผู้ปรับปรุงร้าน
เวชพงศ์ โอสถที่เยาวราช จากอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น เป็น 8 ชั้น
(ก่อนที่จะปรับปรุง อีกครั้งในยุคคุณอภิญญา เวชพงศา) เพื่อส่ง
มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพให้แก่ลูกค้า ตอบ
รับความไว้วางใจที่มีต่อเวชพงศ์โอสถอย่างครบถ้วนรอบด้าน
สานต่อกิจการอย่างสร้างสรรค์และ
เท่าทันยุคสมัย
ด้วย “ความซื่อสัตย์
และจริงใจ”
การดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมที่สืบทอดกันมาใน
ครอบครัวเวชพงศา นับเป็นกุญแจสำคัญของชื่อเสียง
ในแวดวงการค้า
ที่พันธมิตรคู่ค้ายอมรับนับถือในยุคที่ 3
ท่ามกลางกระแส
ความเปลี่ยนผ่านแห่งยุคสมัย ผู้บริโภค
มีความต้องการหลากหลายยิ่งขึ้น อีกทั้งเทคโนโลยีเข้ามา
มีส่วนในการดำเนินชีวิต
ของผู้คนมากขึ้น คุณอภิญญา
เวชพงศา เป็นผู้นำก้าวย่างใหม่ ๆ ในการต่อยอดธุรกิจ
โดยยังคงยึดหลักปรัชญาแห่ง
“ความซื่อสัตย์และจริงใจ”
ที่อากงให้ความสำคัญอยู่เสมอด้วยการ
คงคุณภาพของ
สินค้า การคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันใส่ใจ
และการเลือก
สรรผลิตภัณฑ์มาจำหน่าย ต้องเป็นของที่ดี
มีคุณภาพ
ใช้แล้วได้ผล
สานต่อกิจการอย่างสร้างสรรค์และ
เท่าทันยุคสมัย
ด้วย “ความซื่อสัตย์ และจริงใจ”
การดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมที่สืบทอดกันมาในครอบครัว
เวชพงศา นับเป็นกุญแจสำคัญของชื่อเสียง ในแวดวงการค้าที่
พันธมิตรคู่ค้ายอมรับนับถือในยุคที่ 3 ท่ามกลางกระแสความ
เปลี่ยนผ่านแห่งยุคสมัย ผู้บริโภค มีความต้องการหลากหลาย
ยิ่งขึ้น อีกทั้งเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการดำเนินชีวิตของผู้คน
มากขึ้น คุณอภิญญา เวชพงศา เป็นผู้นำก้าวย่างใหม่ ๆ ในการ
ต่อยอดธุรกิจ โดยยังคงยึดหลักปรัชญาแห่ง “ความซื่อสัตย์
และจริงใจ” ที่อากงให้ความสำคัญอยู่เสมอ ด้วยการคงคุณภาพ
ของสินค้า การคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันใส่ใจ และการเลือก
สรรผลิตภัณฑ์มาจำหน่าย ต้องเป็นของที่ดีมีคุณภาพ ใช้แล้ว
ได้ผล
ถัดมา คือการผนวกองค์ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมกันมากว่าร้อยปี อีกทั้งด้วยการสนับสนุนโดยคู่ค้าที่ไว้วางใจ
กันมา
ยาวนาน รวมถึงพันธมิตรคู่ค้าใหม่ ๆ ที่มีมาเพิ่มเติมไม่ขาดสาย
จึงนำมาซึ่งการปรับประยุกต์พัฒนาในหลาย
มิติ ไม่ว่าจะเป็นจัดการการสื่อสารที่ทันสมัย การบุกเบิกช่องทางการขายออนไลน์ การขยายสาขาสู่ห้างสรรพสินค้า
โดยร้านขายยาเวชพงศ์สาขาแรก
ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ เปิดเมื่อปี พ.ศ. 2559 จากผลตอบรับที่ดีของลูกค้า จึงขยาย
ต่อมาถึง 15 สาขา ในปัจจุบัน การเปิดช่องทางใหม่ ๆ ในการจัดจำหน่าย ทั้งร้านขายยา โมเดิร์นเทรด และเชนสโตร์
ทั่วประเทศ ฯลฯ รวมไปถึงการรังสรรค์ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ การต่อยอดธุรกิจและบริการให้สอดรับกับรูปแบบการใช้
ชีวิต เติมเต็มโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพของผู้บริโภค
ในปัจจุบันอย่างเหมาะสมและทั่วถึงมากที่สุด
ถัดมา คือการผนวกองค์ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมกันมา
กว่าร้อยปี อีกทั้งด้วยการสนับสนุนโดยคู่ค้าที่ไว้วางใจกันมา
ยาวนาน รวมถึงพันธมิตรคู่ค้าใหม่ ๆ ที่มีมาเพิ่มเติมไม่ขาดสาย
จึงนำมาซึ่งการปรับประยุกต์พัฒนาในหลาย มิติ ไม่ว่าจะเป็น
จัดการการสื่อสารที่ทันสมัย การบุกเบิกช่องทางการขายออนไลน์
การขยายสาขาสู่ห้างสรรพสินค้า โดยร้านขายยาเวชพงศ์สาขา
แรกที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ เปิดเมื่อปี พ.ศ. 2559 จากผลตอบรับ
ที่ดีของลูกค้า จึงขยาย ต่อมาถึง 15 สาขา ในปัจจุบัน การเปิด
ช่องทางใหม่ ๆ ในการจัดจำหน่าย ทั้งร้านขายยา โมเดิร์นเทรด
และเชนสโตร์ ทั่วประเทศ ฯลฯ รวมไปถึงการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์
ใหม่ ๆ การต่อยอดธุรกิจและบริการให้สอดรับกับรูปแบบการใช้
ชีวิต เติมเต็มโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพของผู้บริโภคใน
ปัจจุบันอย่างเหมาะสมและทั่วถึงมากที่สุด
ทุกย่างก้าวและทุกองค์ประกอบในการดำเนินธุรกิจ
ที่มีปรัชญาแห่งคุณธรรมจากอากงอิ้วเจียเป็นจุดเริ่มต้นและแก่นความคิด
ล้วนต่อยอดสอดรับกันโดยสมบูรณ์ในแต่ละห้วงเวลา
เติบโตมั่นคงไปพร้อมกับยุคสมัย
โดยมุ่งสู่เป้าประสงค์
อันเป็นหนึ่งเดียวตั้งแต่วันแรกของ “เวชพงศ์โอสถ”

คือ การยกระดับสุขภาพและคุณภาพชีวิตผู้คน
เพื่อสังคมไทยด้วย “หัวใจ” อย่างแท้จริง